แบรนด์ : Sosuco
พื้นที่ใช้งานของคุณ |
ตารางเมตร |
|
กระเบื้องสำรอง |
% เท่ากับ แผ่น |
|
จำนวนแผ่น / ตารางเมตร |
แผ่น |
|
จำนวนที่ต้องสั่งเต็มกล่อง |
แผ่น |
|
จำนวนกระเบื้องที่ใช้ |
แผ่น |
|
|
||
คุณสมบัติ | รายละเอียดสินค้า |
---|---|
รุ่น | - |
แบรนด์ | Sosuco |
ความกว้าง | 25 เซนติเมตร |
ความยาว | 40 เซนติเมตร |
คงทน ลวดลายสวยงามดูดซึมน้ำน้อย ทำความสะอาดง่าย
สามารถตกแต่งผนังได้ในทุกสถานที่ทั้งภายใน และภายนอกอาคาร
1) คงทนกว่า สามารถรับน้ำหนัก และทนทานต่อการขูดขีด ได้ดีกว่าวัสดุประเภทไม้ กระเบื้องยางและไม้ปาร์เก้ เป็นต้น อายุการใช้งานจึงนานกว่า
2) สวยงามกว่า กระเบื้องเซรามิค มีสีสัน และลวดลายสวยงาม สามารถเลือกใช้กับเฟอร์นิเจอร์เครื่องสุขภัณฑ์ และวัสดุตกแต่งประเภทอื่นๆ ได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ สามารถตกแต่งได้ในทุกสถานที่ทั้งภายใน และภายนอกอาคารให้ดูโอ่อ่า ภูมิฐาน
3) ดูดซึมน้ำน้อยกว่า การใช้งานกระเบื้องเซรามิคไม่ต้องกังวลในเรื่องน้ำเหมือนวัสดุประเภทอื่น เช่น ไม้ปาร์เก้ พรม ฯลฯ เพราะมีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำ จึงไม่มีปัญหาเรื่องการหลุดร่อน
4) ทนไฟกว่า ให้ความปลอดภัยต่อบ้านเรือนได้ดี เพราะเป็นฉนวนทนไฟและทนความร้อนได้ดีไม่ติดไฟ
5) ทนกรดทนด่าง สามารถทนต่อสภาพกรด และด่างได้ เป็นอย่างดี
6) สะอาดกว่า สะดวกในการทำความสะอาด ตลอดจนการบำรุงรักษาน้อยกว่าวัสดุตกแต่งอื่นๆ
7) ราคาถูกกว่า ราคาถูกกว่าวัสดุตกแต่งจากธรรมชาติ เช่น ไม้ และหินอ่อน ฯลฯ
กระเบื้องหน้าเงา บุผนัง บรรจุ 10แผ่นต่อกล่องต่อ1ตรม.
1. จะต้องเลือกใช้กระเบื้องสีต่างๆให้เหมาะสมกับพื้นที่คือ
-พื้นที่ขนาดเล็กควรใช้กระเบื้องสีอ่อนเพื่อให้ความรู้สึกโปร่งสว่าง ทึบตัน
-พื้นที่ขนาดใหญ่ควรจะใช้กระเบื้องสีปานกลางถึงเข้ม เพื่อทำให้พื้นที่ดังกล่าวไม่โล่ง หรือดูน่าเบื่อ
-การปูกระเบื้องในห้องน้ำหลักโดยทั่วไป คือ ใช้สีของสุขภัณฑ์เป็นเกณฑ์ก่อน โดยสีสุขภัณฑ์จะโดดเด่นจากสีของกระเบื้อง เช่น ถ้าใช้สุขภัณฑ์สีอ่อน มักใช้กระเบื้องปูพื้นที่มีสีเข้มกว่า และใช้กระเบื้องบุผนังที่สีเข้มกว่าสุขภัณฑ์เล็กน้อยเท่านั้น
2.การเตรียมกระเบื้องก่อนปู
- คำนวณปริมาณกระเบื้องที่จะต้องใช้เผื่อไว้ประมาณ 3-5% สำหรับการตัดตกแต่งให้พอดีพื้นที่และ เผื่อไว้สำหรับการซ่อมแซมในอนาคต -
ก่อนปูกระเบื้องทุกครั้ง ควรตรวจสอบ เกรด สี ขนาด และลวดลาย ของกระเบื้องให้ถูกต้องและตรงกันทุกกล่อง เช่น 0/5 (ขนาด/SHADE สี)
- ก่อนปูกระเบื้องทุกครั้งต้องนำกระเบื้อง 5-6 กล่องมาปูคละกันเพื่อให้สีกลมกลืน
- สำหรับกระเบื้องบุผนังที่มีการดูดซึมน้ำสูง ก่อนการปูต้องนำไปแช่น้ำสะอาดให้อิ่มตัวทุกครั้งส่วนกระเบื้องปูพื้นที่มีความดูดซึมน้ำต่ำ ไม่จำเป็นต้องแช่น้ำก่อนปู
3.การเตรียมพื้นที่ก่อนการปูกระเบื้อง ควรมีขั้นตอนดังนี้
- ต้องทำการวัดระดับของพื้นที่ว่าได้ระดับเดียวกันหรือไม่
- ในกรณีที่ไม่ได้ระดับ ต้องทำการปรับระดับพื้นเสียก่อนด้วยปูนซีเมนต์เทาผสมทรายและน้ำ (ถ้าในกรณีที่พื้นดินมีความชื้นสูง เช่น เดิมบริเวณนั้นเป็นแอ่งมาก่อน ควรใช้น้ำยากันซึมผสมในการปรับระดับด้วย)
- ปรับระดับพื้นสูงขึ้นประมาณ 2-3 ซม. ทั้งนี้แล้วแต่สภาพพื้นทีซึ่งอาจสูงหรือต่ำกว่านี้ก็ได้
- ในการปรับระดับให้ฉาบด้วยปูนทรายหยาบ หรือใช้ไม้กวาดทางมะพร้าวครูดผิวหน้าให้เป็นรอยหยาบเพื่อช่วยในการยึดเกาะกับการปูกระเบื้องในขั้นต่อไปให้ดียิ่งขึ้น - หลังจากการปรับระดับแล้ว จะต้องทิ้งพื้นไว้ให้แห้งอย่างน้อย 2 วัน หรือถ้ายิ่งนานก็ยิ่งดี เพื่อมั่นใจว่าพื้นที่ดังกล่าวแห้งสนิทปราศจากความชื้น ในกรณีของการปูกระเบื้องบุผนังทิ้งผนังให้แห้งสนิทนาน 3-4 สัปดาห์ ก่อนทำการปู
- ถ้าเป็นพื้นหรือผนังคอนกรีตอยู่แล้วให้ใช้ค้อนสกัดให้เป็นหลุมเล็กๆ กระจายทั่วไป แล้วฉาบซีเมนต์ปรับระดับจนได้พื้นที่เรียบเสมอกัน
4.หลักการปูกระเบื้องโดยทั่วไป
- ต้องวางเส้นระดับกำหนดความสูงของแผ่นกระเบื้อง โดยยึดกับตะปู 2 จุด เพื่อใช้เป็นแนวหลักในการปูกระเบื้อง ซึ่งปกติจะทำแนวหลักไว้ 2 แนวคือ แนวกว้าง และแนวยาว เพื่อให้กระเบื้องได้ระดับเท่ากัน สม่ำเสมอ
- ต้องทำให้ผิวที่จะปูกระเบื้องชื้นโดยสม่ำเสมอ เพื่อช่วยป้องกันปัญหาการหลุดร่อน
- ควรปูกระเบื้องให้มีร่องแนวระหว่างแผ่นห่างเป็นระเบียบสวยงาม ในการปูกระเบื้องบุผนังจะปูชิดได้หรือฆห่างไม่เกิน 2 มม. สำหรับการปูพื้นที่ควรห่างประมาณ 3-5 มม. เป็นอย่างน้อย
5.วิธีการปูกระเบื้อง แบ่งได้เป็น 4 วิธีดังนี้คือ
- การปูแบบเปียก
กรณีพื้นหลังจากการเทคอนกรีตเสริมเสร็จแล้ว จะเททับด้วยปูนทรายแล้วปาดให้เรียบ จัดหาระดับให้เรียบร้อย ทิ้งไว้จนปูนทรายเริ่มหมาดจึงทำการปูด้วย กระเบื้อง ทำให้ปูได้เร็ว ประหยัด เวลา แต่จะมีความชื้นใต้กระเบื้องมาก
- การปูแบบแห้ง
ใช้ปูนซีเมนต์เทาหรือปูนซีเมนต์ขาว ฉาบลงพื้น ที่จะปูกระเบื้องโดยใช้ส่วนผสมของปูน : ทราย 1 : 3 หรือ 1 : 4 ถ้าเป็นปูนซีเมนต์ขาวควรให้มีความเข้มพอประมาณ ใช้เกรียงหวีปาดพื้นให้เกิดร่องตามรอยหวี ทำให้ความหนาสม่ำเสมอ โดยหนาประมาณ 5-7 มม.
- การปูแบบหมาด (แบบซาลาเปา)
ทำความสะอาดพื้นผิวที่ต้องการติดกระเบื้อง ใช้เกรียงตักส่วนผสมปูนทราย ควรใช้ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ส่วนผสม 1 : 4 ติดลงหลังกระเบื้อง แล้วจึงปู หรือจะใช้ปูนซีเมนต์ขาวแทนก็ได้ เคาะหน้ากระเบื้องด้วยค้อนยาง หรือด้ามเกรียงเพื่อปรับระดับ
- การปูโดยใช้กาวสังเคราะห์ หรือกาวซีเมนต์
ทำความสะอาดพื้นผิวที่ต้องการติดกระเบื้อง ผสมกาวซีเมนต์กับน้ำธรรมดาโดย ให้มีความข้นเหนียวพอประมาณ แล้วฉาบลงบนพื้น ที่ต้องการปูกระเบื้อง ใช้เกรียงหวีปาดให้กาวซีเมนต์เกิดร่องตามรอยหวี ให้ความหนาของกาวสม่ำเสมอ นำกระเบื้องปูทีละแผ่น กดเพียงเล็กน้อยเพื่อปรับระดับ
1. ใช้ผ้าสะอาดหรือฟองน้ำชุบน้ำแล้วเช็ดลงไปที่ตัวกระเบื้อง จากนั้นเช็ดน้ำยาออกด้วยผ้าแห้ง
2. ในกรณีที่พื้นหรือผิวหน้ากระเบื้องมีความสกปรกมาก ควรใช้น้ำยาผสมน้ำเพื่อทำความสะอาดควบคู่กันไป
3. วิธีป้องกันการเกิด"รอยขนแมว" ใช้น้ำสมสายชูเช็ดบริเวณผิวหน้ากระเบื้อง
4.การทำความสะอาดร่องยาแนว ควรเลือกใช้แปรงที่มีขนอ่อนกับน้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำยาฟอกขาว แต่ถ้าแนวยาแนวสกปรกมาก การลงยาแนวใหม่อาจเป็นวิธีแก้ที่ง่ายกว่า
5.การขจัดรอยด่างจากน้ำสบู่ ใช้น้ำผสมกับน้ำส้มสายชูกลั่น 1 ส่วน น้ำ 4 ส่วน ล้างทำความสะอาด
การเขียนรีวิวที่ถูกวิธี
-
เน้นเฉพาะที่ตัวสินค้าและคุณสมบ้ติของสินค้า
-
แสดงความคิดเห็นตามประสบการณ์โดยตรงของคุณ
-
โปรดช่วยอธิบายเพิ่มเติม ว่าทำไมคุณถึงแสดงความคิดเห็นเช่นนั้น
แสดงความคิดเห็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับสินค้าโดยตรง
-
กรุณาอย่าแสดงความคิดเห็นที่ไม่เป็นความจริง เบี่ยงเบนหรือนำไปสู่ในทางที่ไม่เป็นจริง
-
ใช้ คำดูหมิ่น หยายคาย ลามก ทำลายชื่อเสียง ข่มขู่ หรือ ภาษาดูถูกผู้อื่น
-
เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น
-
ใส่ ลิ้งค์เครื่องหมายการค้าที่ไม่ได้รับอนุญาติ หรือ เนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธ์